วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555




กลอนโดนๆ




ผู้ชายไม่ใช่พ่อ ถ้าหน้าม่อกูก็เอา 

การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า แต่เรารักคุณมากกว่าการบินไทย


... คาถาบูชาเมีย ... 
รักเมียต้องอนทน ต้องเป็นคนเคารพเมีย 
รักเมียต้องส่งเสีย อย่าให้เมียต้องสงสัย 
รักเมียต้องรักเดียว อย่าได้เที่ยวไปรักใคร 
รักเมียต้องทำใจ ถึงอย่างไรเธอก็เมีย 
รักเมียอย่าขี้เหล้า ถ้าเมียเหงาเราจะเสีย 
รักเมียอย่าอ่อนเพลีย คนรักเมียต้องแข็งแรง 
รักเมียอย่าเที่ยวดึก จะเกิดศึกผิดสำแดง 
รักเมียอย่ารุนเเรง ค่อยๆแซงอย่าขับไว 
รักเมียต้องยอมเมีย เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร 
รักเมียต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย 
รักเมียอย่าเถียงเมีย คำพูดเมียใหญ่กว่าใคร 
ชาติหน้ามีฉันใด จงจำไว้อย่ามีเมีย


... คำแก้ตัว ของคนผิด ... 
เธอดีเกินไป 
ไม่ใช่ข้ออ้างของการหมดใจแต่ฉันคิดอย่างนั้น 
แม้แต่วันที่เดินไปบอกเธอ  ว่าเราไม่เหมาะสมกัน 
เธออาจคิดว่าเป็นคำแก้ตัวเท่านั้น   หรือเพราะฉันกำลังมีใคร 
ฉันอาจไม่ใช่คนที่เธอกำลังตามหา 
ฉันไม่ใช่เทวดาบนฟ้าใส 
จะเคียงคู่กับนางฟ้าแสนงดงามได้อย่างไร 
ฉันเป็นไม่ได้แม้แต่เจ้าชาย  ที่มีทุกอย่างที่เธอต้องการ 
เจ้าชายอสูรยังไงก็คือเจ้าชาย 
แต่ฉันเป็นได้ อย่างมากก็แค่พลทหาร 
เจ้าหญิงคงรอคอยเจ้าชายมาเนิ่นนาน 
พอถึงตอนอวสาน  ในอีกไม่นาน ก็คงได้เคียงคู่กัน 
วันนี้ฉันคงต้องเดินทางอีกยาวไกล 
ทุกอย่างที่ทำ  ก็เพื่อเธอทั้งนั้น 
ไม่มีวันไหนที่ฉันไม่รักเธอเลยสักวัน 
เพราะฉันรัก  ฉันถึงต้องทำ  หวังว่าเธอคงเข้าใจ 
ถ้าคนที่เปลี่ยนไปคือคนผิด 
ฉันอยากให้เธอคิดแบบนั้นเธอเข้าใจไหม 
ที่ฉันบอกเธอว่าเธอดีเกินไป 
ความจริงคือฉันดีไม่พอสำหรับเธอ 
ไม่ใช่ฉันอยากเดินจากเธอมา 
ไม่ใช่ฉันไม่มีน้ำตา  แต่ฉันซ่อนมันไว้เสมอ 
ไม่ใช่ฉันไม่อ่อนแอ  แต่ฉันแกล้งเข้มแข็งทุกทีที่พบเจอ 
อยากบอกคำว่ารักกับเธอ   แต่ก็ได้แต่เก็บซ่อนมันไว้ข้างใน 
ฟังคำแก้ตัวจบแล้วใช่ไหมคนดี 
ฟังคนไม่ดีแก้ตัวจบแล้วใช่ไหม 
ก็แค่ข้ออ้าง  ที่ฟังดูดีก่อนจากไป 
แต่มันก็คือความจริงในใจ  ที่ไม่ต้องการให้ใครไปบอกเธอ


... กลอนกินใจ ... 
ความรัก กับความจริง มักสวนทาง 
ทุกก้าวย่าง ทางเดิน หาคู่ฝัน 
มักจะมี  หลายสิ่ง  ที่ต่างกัน 
ทำให้เธอ กับฉัน ต้องอับจน
  

ฉันเป็นได้ แค่กองหลัง ฟังเขาด่า 
สะกัดบอล ไม่เข้าท่า เขาว่าให้ 
ไม่ได้เป็น กองหน้า ดังกว่าใคร 
แต่ฉันก็ ไม่ยอมให้ เสียประตู
  

ถ้าแน่จริง อย่ากดตอบ ไม่ชอบใจ 
อยากเจอหน้า ทันใด ในบัดนี้ 
ได้แต่ส่ง ข้อความ ตามหลายที 
เอาแต่ตอบ ขอไปที มีเลศนัย
  

นี่แหละคือ ความเสียใจ ที่ได้เจอ 
หากวันนี้ ไม่มีเธอ เหมือนวันนั้น 
ถึงได้รู้ ความเสียใจ เป็นไงกัน 
มันมากเกิน เกินกว่าฉัน เคยพบมา 

มีความสุข มากนักเหรอ ที่เธอทำ 
หรือคิดว่า แค่ขำขำ เลยทำได้ 
เธอน่ะ ทำเป็นเล่น ไม่เห็นใจ 
รู้ไหมว่า ฉันคิดไง ที่จริงจัง 

เจ็บไม่เจ็บ ก็ไม่ต่าง ไปจากเดิม 
ที่เพิ่มเติม คือความเหงา เข้ามาหา 
ใจมันเจ็บ แต่อดทน จนชินชา 
ลืมแล้วว่า เสียน้ำตา ไปเท่าไร 

รอได้ไหม คนดี รอได้ไหม 
รอให้พร้อม ทั้งกายใจ มากกว่านี้ 
รอฐานะ รอเงินทอง รออีกปี 
แต่ความรัก ตอนนี้ พร้อมชัวร์ชัวร์ 

หมอฟันธง เอาไว้ว่า ถ้าใครอ่าน 
จะพบพาน คู่แท้ แน่จริงจ้า 
แถมฟันธง เอาไว้ ใครส่งมา 
ตามชะตา คือคู่แท้ แน่จริงจริง 

อย่ามาทำ เป็นรู้ ดีกว่าฉัน 
ไม่ต้องมา สั่งสอนกัน มันไม่ใช่ 
ทำหน้าที่ ไปดีกว่า อย่าใส่ใจ 
คนอย่างฉัน เกินกว่าใคร จะรักลง 

ทนไม่ไหว ถ้ามีใคร ใกล้ชิดเธอ 
เพราะอาจเผลอ มีใจ ให้กับเขา 
ทนไม่ได้ ถ้ามีใคร ย่ำใจเรา 
ลืมไปว่า ได้แต่เฝ้า แอบรักเธอ   

*************************** 

รู้...ศาสตรา อาวุธ หาใดเปรียบ 
รู้...มิมี ใครเทียบ แสนยาได้ 
รู้...ยังแพ้ แก่เธอ อยู่ร่ำไป 
รู้...พ่ายคำ ยิ่งใหญ่ ในแดนดิน 
- - - - 
รัก...จรรโลง โลกนี้ สีสดใส 
รัก...ห่างหาย หดหู่ ให้ถวิล 
รัก...เพียงเธอ จ่อมจม เกินใจจินต์ 
รัก...ตราบสิ้น ดินฟ้า มามลาย 
- - - - 
ฤๅ...สิ่งใด เทียบได้ ซึ่งความรัก 
ฤๅ...ใครจัก เคียงชิด ไม่ห่างหาย 
ฤๅ...มีสิ่ง ยืนยง ไม่เปลี่ยนไป 
ฤๅ...เทียบเท่า หัวใจ ที่ให้เธอ 
- - - - 
ลืม...ความทุกข์ ความเหงา และเศร้าจิต 
ลืม...ความคิด หยุดที่ เธอเสมอ 
ลืม...ทุกสิ่ง ทุกคน ที่เคยเจอ 
ลืม...ว่าฝัน ละเมอ หรือเรื่องจริง 

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ไวรัสคอมพิวเตอร์


          หนอนอินเทอร์เน็ต (Internet Worm) ซึ่งหมายถึงโปรแกรมที่ออกแบบมาให้สามารถแพร่ กระจายไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ด้วยตัวเอง โดยอาศัยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อี-เมล์ หรือ การแชร์ไฟล์ ทำให้การแพร่กระจายเป็นไปอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง
          หนอนอินเตอร์นั้นเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลก เมือหนอนอินเตอร์เน็ตที่ชื่อ Christmas Tree Exec นั้นเข้าโจมตีเครื่องคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมของไอบีเอม ในเดือนธันวาคมปี 1987 เป็นเหตุให้ระบบเน็ตเวิร์คของไอบีเอมทั่วโลกนั้นใช้งานไม่ได้    ต่จริงๆแล้ว Christmas Tree Exec ไม่ใช่หนอนอินเตอร์เน็ตที่แท้จริง แต่เป็นโปรแกรมประเภทม้าโทรจันที่สามารถCopy ตัวเองโดยการแฝงตัวไปกับ E-Card โดยการทำงานนั้นหลังจากที่ผู้ใช้เปิดE-Card โปรแกรมจะแสดงรูปต้นคริสต์มาสแล้วทำการแอบ  Copy  ตัวเองลงไปยังทุกๆรายชื่อ ที่มีอยู่ในสมุดรายชื่ออีเมล์ของผู้ใช้คนนั้น
             หนอนอินเตอร์เน็ตที่แท้จริงนั้น เกิดหลังจากนั้นเกือบปี คือในเดือนพฤศจิกายนในปี 1988 เมื่อหนอนอินเตอร์เน็ตเข้าโจมตีเครื่อง Server ของ Sun และ DEC  ที่ต่อเชื่อมอยู่กับอินเตอร์เน็ต  โดยตัวเนื้อของหนอนประกอบไปด้วยตัวโค้ดส่วนที่สามารถรันบนเครื่อง Sun และเครื่อง DEC     ผ่านการเชื่อมต่อของระบบเน็ตเวิร์ค TCP/IP และช่องโหว่ของโปรแกรม Sendmail  ผลจากการเข้าโจมตีทำให้เครื่องServer ของทั้งSun และ DEC
  ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และสามารถทำให้ระบบเน็ตเวิร์กไม่สามารถทำงานได้
การทำงาน
                ลักษณะของหนอนอินเตอร์เน็ตนั้นมีลักษณะเฉพาะตัว แต่ละชนิดถูกสร้างมาความต้องการที่แตกต่างกันออกไปตามจุดประสงค์ของผู้สร้าง แต่ว่าพวกหนอนอินเตอร์เน็ตนั้นมีลักษณะที่ซ้ำกันอยู่คือ
              - ความสามารถcopy ตัวเอง 
              - ความสามารถทำงานด้วยตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมอื่น
              - ความสามารถเคลื่อนที่ไปบนอินเตอร์เน็ต 
              ส่วนใหญ่แล้วหนอนอินเตอร์เน็ตเอง จะไม่ทำอันตรายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มันฝังตัวอยู่ แต่ว่าโต้ดที่ติดไปกับตัวหนอนนั้นจะเป็นตัวจัดการกับเหยื่อที่หนอนเข้าไปฝังตัว
การแพร่กระจาย
              หนอนอินเตอร์เน็ตนั้นทำงานเหมือนกับมีสมองเป็นของตัวเอง ความพยายามอันดับแรกคือ  copy ตัวเองไปยังเครื่องอื่นๆ ติดต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น  โดยสามารถแบ่งการแพร่กระจายของหนอนอินเตอร์เน็ตออกเป็น 2แบบคือ
              1. ผ่านอินเตอร์เน็ต
              2. ผ่านพาหะอื่นๆ
               ผ่านอินเตอร์เน็ต  เจ้าหนอนอินเตอร์เน็ตสามารถเคลื่อนที่ตัวเองไปบนโลกอินเตอร์เน็ต  อินเตอร์เน็ตจึงเปรียบเสมือนบ้านของมันที่สามารถไปทุกๆที่   ระบบเน็ตเวิร์ค หรือเครื่องของท่านอาจเป็นเหมือนโรงแรม  ที่เจ้าหนอนนั้นอาจแวะไปพัก หรือเยี่ยมเยียนได้ทุกเมือ ถ้าเราไม่มีระบบป้องกันที่ดีพอ หนอนอินเตอร์เน็ตไม่จำเป็นต้องอาศัยพาหะใดๆ   ในการแอบไปในระบบของเรา แต่จะใช้การเจาะเข้าไปตรงๆ ในส่วนที่เป็นช่องโหว่ของเครื่องหรือระบบของเรา
        ผ่านพาหะอื่นๆ จริงอยู่ว่าหนอนนั้นไม่ต้องการพาหะในการแพร่พันธุ์ แต่ในตอนเริ่มต้นการที่จะฝากหนอนไปกับโปรแกรมอื่นๆก็ดูจะไม่ถือว่าผิดกติกาแต่อย่างใด  เพราะเมื่อหนอนถูกปล่อยแล้ว มันก็สามารถเริ่มวงจรชีวิตด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร     พาหะที่ว่า ไม่ว่าจะซ่อนอยู่ในโปรแกรมอื่นๆ  แล้วทิ้งเอาไว้ให้ดาวโหลดตามอินเตอร์เน็ต หรือจะเป็นการส่งโปรแกรมทางอีเมล์ก็สามารถใช้ได้ทั้งนั้น ขอให้ถึงมือเหยื่อเป็นใช้ได้
ความเสียหาย
              มีผลต่อคอมพิวเตอร์โดยตรง โดยปกติแล้วคอมพิวเตอร์ทำงานตามที่เจ้าของเครื่องตั้งใจ หลังจากที่เจ้าหนอนอินเตอร์เน็ตเข้าไปฝังตัวแล้วหนอนอินเตอร์เน็ตจะสร้างโปรเซสของตัวเอง   เพื่อที่จะทำงานตามที่หนอนอินเตอร์เน๊ตถูกโปรแกรมเอาไว้  ทำให้คอมมพิวเตอร์โดนดึงทรัพยากรเพื่อทำงานให้กับหนอนอินเตอร์เน็ต ถ้าดึงทรัพยากรไปใช้เฉยๆ ก็คงจะไม่ร้ายแรงเท่ากับ     การทำความเสียหายให้ระบบคอมพิวเตอร์ หรือการทำความเสียหายให้คอมพิวเตอร์นั่นเอง
ความเสียหายแบ่งเป็นสองอย่างคือ
              1.ความเสียหายที่เกิดกับเครื่อง
              ทรัพยากรที่หนอนอินเตอร์เน็ตแย่งไปใช้เพื่อการทำงานของตัวเองได้แก่ ซีพียู เมโมรี หรือ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น เมื่อถูกหนอนอินเตอร์เน็ตเอาไปใช้งาน การทำงานของเครื่องก็จะช้าลง  หรือลองนึกถึงการเปิดโปรแกรมหลายๆโปรแกรม ก็จะทำให้เครื่องอืดนั่นเอง
              2.ความเสียหายที่เกิดกับระบบเน็ตเวิร์ค
              หน้าที่หนึ่งของหนอนก็คือ การพยายามแพร่พันธุ์ให้เร็วที่สุด และมากที่สุดเท่าที่จะมากได้  โดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไดก็ตาม  ในความพยายามก๊อบปี้ตัวเองให้มากที่สุดนี่เอง ทำให้หนอนกินแบนด์วิดธ์ได้อย่างไม่จำกัด ไม่มีอิ่ม ดังนั้นหากองค์กรใดเลี้ยงหนอนอินเตอร์เน็ตไว้ ด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตามยอมทำให้องค์กรนั้นๆเสียแบนด์วิดธ์ให้กับเจ้าหนอนส่วนหนึ่งตลอดเวลา   

ที่มา :http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/tech04/16/2/internet/i07_3.htm

ถึงเวลารักษาความปลอดภัย ป้องกันไวรัสที่มาจากอินเตอร์เน็ต       

             การระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนั้น ช่องทางหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นช่องทางระบาดมากที่สุดอันหนึ่งคือ ระบาดผ่านทาง USB Flash Drive การระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์หลายตัวในช่วงที่ผ่านมา จะแพร่ระบาดโดยการสำเนาตัวเองไปยังทุกๆ ไดรฟ์ บนเครื่องที่ติดไวรัส วิธีการหรือคำแนะนำ ในการป้องกันไวรัสหรือมัลแวร์ จะเป็นการลดผลกระทบจากปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี ..
ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนเรา และอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญ เนื่องจากการทำงานต่างๆ นั้นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แทบทั้งสิ้น หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีคอมพิวเตอร์เกี่ยวข้องไม่ขั้นตอนใดก็ขั้นตอนหนึ่ง โดยทั่วไปเราอาจแยกผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้ใช้งานหรือยูสเซอร์ และกลุ่มที่ 2 เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล ซ่อมแซม และบำรุงรักษา ให้เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา เช่น Administrator, Helpdesk หรือ Technician เป็นต้น
            ปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ (หรือเรียกรวมๆกันว่ามัลแวร์)นั้น คิดว่าคงเป็นปัญหาที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไป (User)หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ (Administrator) คงต้องเคยมีประสบการณ์ (ที่ไม่ค่อยจะดี) มาแล้ว มากบ้างน้อยบ้าง เบาบ้างหนักบ้าง ก็ว่ากันไป ผลกระทบจากปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์หรือมัลแวร์นั้น มีหลายระดับ ตั้งแต่สร้างความรำคาญโดยการแสดงข้อความต่างๆ ลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง จนร้ายแรงถึงระดับทำลายระบบได้ก็มี แต่โดยทั่วไปแล้ว มันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง ตัวอย่างเช่น ทำให้เครื่องทำงานช้าลง หรือเครื่องแฮงก์บ่อย หรือเครื่องรีสตาร์ทเองบ่อยเป็นต้น เป็นผลทำให้เสียเวลาในการทำงาน
การแพร่ระบาดของมัลแวร์ ลักษณะการแพร่ระบาดของมัลแวร์ในปัจจุบันนั้น ส่วนมากจะเริ่มต้นโดยการแพร่ระบาดผ่านทางระบบอีเมล และเมื่อมัลแวร์เข้าไปติดในเครื่องคอมพิวเตอร์ มันก็จะทำแพร่ระบาดผ่านทั้งทางระบบอีเมลและทางอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบพกพา โดยส่วนมากแล้วมัลแวร์จะอยู่ในไฟล์ประเภท PE (Portable Execute) คือ ไฟล์ที่สามารถเอ็กซีคิวท์ได้ เช่น ไฟล์นามสกุล .exe, .com, .scr เป็นต้น และนอกจากนี้ในปัจจุบัน จะพบว่าไวรัสประเภท script virus เช่น VBScript, JScript มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
             วิธีการป้องมัลแวร์ วิธีการหรือคำแนะนำทั่วๆ ไปในการป้องกันมัลแวร์นั้น มีดังนี้
1. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและสปายแวร์ โดยต้องทำการอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสและสปายแวร์อย่างสม่ำเสมอ (แนะนำให้ทำการอัพเดททุกๆ วัน)
2. ทำการสแกนไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
3. ปิดการใช้งาน Autoplay ในทุกๆ ไดรฟ์
4. ทำการสแกนสื่อเก็บข้อมูลแบบพกพาทุกครั้ง ก่อนการใช้งาน
5. ในกรณีที่ต้องทำการแชร์ไฟล์ข้อมูลต่างๆ ให้ทำการแชร์แบบอ่านอย่างเดียว (Read Only) เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) ถ้าจำเป็นต้องทำการแชร์แบบ Read-Write ให้กำหนดรหัสผ่านสำหรับการแชร์แบบ Write ทุกๆ ครั้ง
6. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง และป้องกันการสูญหายของข้อมูลเนื่องจากระบบวินโดวส์เสีย ให้แยกข้อมูลต่างๆ ไปเก็บไว้บนไดร์ฟไม่ใช่ไดร์ฟที่ระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่
7. เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลเนื่องจากฮาร์ดดิสก์เสียให้ทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญๆ ลงแผ่นซีดีหรือดีวีดี
8. ทำอิมเมจของไดร์ฟที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อใช้ในการกู้คืนระบบในกรณีที่วินโดวส์หรือฮาร์ดดิสก์เสีย
9. ไม่ควรติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ได้มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ได้มาจากการดาวน์โหลดไพรเรทเว็บไซต์ (คือเว็บไซต์ที่ให้ดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์) บนอินเทอร์เน็ต หรือติดตั้งโปรแกรมที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือนโยบายขององค์กร เนื่องจากอาจทำให้เครื่องมีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) สูงขึ้น
10. ไม่ควรติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นในการทำงาน เพราะนอกจากอาจทำให้เครื่องมีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) สูงขึ้นแล้ว ยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงได้
11. กำหนดรหัสผ่านให้กับ Administrator และทำการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและเป็นความลับ
วิธีการหรือคำแนะนำด้านบนนั้น เป็นวิธีการทั่วไปในการป้องกันมัลแวร์ โดยวิธีเหล่านี้ช่วยป้องกันมัลแวร์ได้ผลดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันปัญหาได้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ เนื่องจากมัลแวร์เองนั้น ก็ได้มีการพัฒนาเทคนิคการหลบเลี่ยงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถแฝงตัวเข้าไปติดในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การที่มัลแวร์จะเข้าไปติดในเครื่องได้นั้น ไฟล์ไวรัสจะต้องถูกทำการรันเสียก่อน ดังนั้นถ้าเราสามารถป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ทำการรันไวรัส โอกาสที่เครื่องจะติดไวรัสก็จะลดลงไปด้วย
                                                                      ข้อมูลจาก Thai Windows Administrator
ลบไฟล์ขยะหลังจากใช้อินเตอร์เน็ต ช่วยลดปัญหาไวรัส

ทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรม Internet Explorer ก็จะทำการ download ข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเราชั่วคราว ซึ่งเมื่อเราเลิกใช้งาน ไฟล์เหล่านี้ก็ยังคงอยู่  นอกจากปัญหาไฟล์ในเครื่องที่อาจจะเพิ่มมากขึ้นจนทำให้เนื้อที่ใน Harddisk ของเราน้อยลงแล้ว อาจมีไวรัสแอบแฝงเข้ามาในเครื่องของเราได้ด้วย  ดังนั้นวิธีการจัดการที่ง่ายที่สุดคือ กำหนดให้โปรแกรม Internet Explorer ลบไฟล์ขยะเหล่านี้อัตโนมัติทุกครั้งที่ปิดโปรแกรม  โดยมีขั้นตอนดังนี้

 
  1.  เข้าโปรแกรม Internet Explorer คลิกเมนู Tools > Internet Options
   2.  คลิกเลือกแท็ป Advanced แล้วเลื่อนลงมาที่หัวข้อ Security
   3.  คลิกหัวข้อ Empty Temporaly Internet Files folder when browser
        is closed
   4.  คลิกปุ่ม Apply 
   ด้วยวิธีการที่ง่ายนี้ การเข้าอินเตอร์เน็ตในครั้งต่อไป คุณก็จะไม่ต้องกังวลกับปัญหา
   ไฟล์ขยะ และไวรัสอีก





ที่มา: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์